ความคาดหวังในการทำงานของมนุษย์เงินเดือนโดยส่วนใหญ่ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของการได้เงินเดือนที่สูงขึ้นแต่อย่างแรกที่จะเป็นประตูไปสู่การเพิ่มขั้นเงินเดือนก็คือการเลื่อนตำแหน่งงานที่สูงขึ้น หรือการเติบโตในตำแหน่งงาน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยส่วนบุคคล ปัจจัยด้านองค์กร และปัจจัยภายนอกอื่นๆ
ซึ่งปัจจัยสำคัญที่สามารถจัดการได้ และมีความสำคัญเป็นอย่างมากก็ปัจจัยส่วนบุคคลที่ต้องมองกลับมาที่ตัวเราเอง ว่ามีศักยภาพในการทำงานมากน้อยแค่ไหน เพราะการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากย่อมทำให้มีโอกาสในการก้าวหน้าได้มากกว่า นอกจากนี้ยังรวมถึงการวางแผนและตั้งเป้าหมายในการทำงานของตนเองว่าต้องการความก้าวหน้าในการทำงานไปสู่จุดไหน เพราะเป้าหมายที่ชัดเจนจะส่งผลให้เกิดการผลักดันตนเองไปสู้เป้าหมายได้อย่างเป็นรูปธรรมมากว่า อย่างไรก็ตามการพัฒนาศักยภาพของตนเองอยู่เสมอ เพื่อรองรับโอกาสดีๆ ในการทำงานที่จะเข้ามา คือสิ่งที่จำเป็นสำหรับพนักงาน เพราะหากมีความต้องการที่จะเติบโตแต่กลัวการพัฒนา ต้องการอยู่ในจุดเดิมเพื่อทำงานอย่างสบายใจ ก็อาจก่อให้เกิดอุปสรรคในการพัฒนาได้
เทคนิค 5 ข้อที่จะปั้นตัวเองไปสู่ตำแหน่งงานที่สูงขึ้น
1. ความสามารถและภาวะผู้นำ
สิ่งแรกที่เป็นพื้นฐ่นและขาดไม่ได้เลยก็คือ ความสามารถและภาวะผู้นำของตัวเรา ที่สอดคล้องกับตำแหน่งงานที่เราได้รับมอบหมาย รวมถึงสอดคล้องกับเป้าหมายในระดับองค์กร เพราะนี่คือสิ่งที่บอกว่าเราจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้งานบรรลุเป้าหมาย และสร้างความร่วมมือในการทำงานได้ นอกจากนี้หากเราสามารถฉายแสงความสามารถที่จะต่อยอดไปสู่ตำแหน่งที่เติบโตขึ้นไปได้ก็จะทำให้การเลื่อนตำแหน่งเป็นไปได้ไม่ยาก โดยภาวะผู้นำไม่จำเป็นต้องรอให้ได้รับตำแหน่งหัวหน้างาน แต่สามารถใช้ความเป็นผู้นำในทุกระดับเพื่อขับเคลื่อนงานให้มีประสิทธิภาพได้ในทุกตำแหน่ง สถิติจากงานวิจัยพบว่า
- 83% ของนายจ้างระบุว่าการพัฒนาผู้นำในทุกระดับเป็นสิ่งสำคัญ
- 78% ของผู้นำธุรกิจให้ความสำคัญกับการปรับปรุงการมีส่วนร่วมกับพนักงาน
ที่มา https://goremotely.net/blog/leadership-statistics/
2. รู้ค่านิยมองค์กร
ในเกือบทุกองค์กรจะมีการกำหนดค่านิยมองค์กร (Core Values) ที่จะบอกว่า DNA แบบไหนที่องค์กรต้องการให้มีอยู่ในตัวพนักงาน เพื่อจะได้สนับสนุนให้องค์กรเติบโตได้แบบยั่งยืน ถ้าเรามีค่านิยมส่วนตัว (Personal Values) ที่สอดคล้องกับองค์กรก็จะสามารถทำงานให้สอดรับกับเป้าหมายองค์กรได้เป็นอย่างดี เพราะไม่ต้องฝืนตัวเองให้เป็นไปตามที่องค์กรต้องการ ทำให้การทำงานในองค์กรมีความสุข มีแรงบันดาลใจในการทำงานมากยิ่งขึ้น
- บริษัทที่มีวัฒนธรรมที่แข็งแกร่งมีรายได้เพิ่มขึ้น 4 เท่า
- คะแนนโดยรวมของพนักงานเกี่ยวกับคุณภาพของบริษัท เช่น การทำงานร่วมกัน สภาพแวดล้อมในการทำงาน พันธกิจ และการจัดตำแหน่งงานที่มีคุณค่า สูงขึ้น 20% ในบริษัทที่มีวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง คุณสมบัติเหล่านี้ช่วยให้พนักงานมีการทำงานที่ความสอดคล้องกับบริษัท และมีแรงจูงใจในการทำงาน
ที่มา https://cultureiq.com/blog/company-culture-employee-engagement-statistics/
3. ผลงานดีอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ
นอกจากประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีแล้ว ความต่อเนื่องและสม่ำเสมอก็เป็นอีกสิ่งที่องค์กรมองหา การสร้างผลงาน Peek Perfomance ได้ หรือมีผลงานที่โดดเด่นต่อเนื่อง ถือเป็นการแสดงศักยภาพของตนเอง ก็เป็นอีกทางที่ทำให้เราอาจถูกโปรโมทแบบ Fast track ได้อีกด้วย
4. เป็นผู้นำที่สร้างการเปลี่ยนแปลงได้
องค์กรในยุคนี้ต้องมีความรวดเร็วในการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้ทันต่อเหตุการณ์ หากคุณเป็น Chang Agent ถือเป็นกุญแจสำคัญในการเปลี่ยนแปลงองค์กร คือมีความรู้และเข้าใจกลยุทธ์ขององค์กรและสามารถโน้มน้ามใจให้ผู้อื่นตอบสนองกับกลยุทธ์หรือนโยบาย สามารถมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายสามารถ ไม่ต่อต้านและโน้มน้าวใจให้คนในองค์กรเห็นถึงความสำคัญที่จะปรับพฤติกรรมเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทั้งภาพลักษณ์องค์กร การสานต่อนโยบายผู้บริหารได้
5. มี Team Spririt
นอกจากทักษะต่างๆ แล้วการที่เรา Team spririt คือสามารถทำงานร่วมกับหน่วยงานตัวเองได้ดี สนับสนุนเป้าหมายของทีมได้จนงานสำเร็จ โดยใช้ความสามารถที่แตกต่างหลากหลายของคนในทีมเพื่อสนับสนุนการทำงานซึ่งกันและกัน และยังทำงานกับคนต่างแผนกได้ (Cross functional) ก็ถือเป็นอีกสิ่งที่องค์กรต้องการ เพราะงานในองค์กรไม่สามารถสำเร็จได้ด้วยทีมเดียว แต่ต้องร่วมมือกันจากทุกฝ่าย การทำงานเป็นทีมได้ดีนอกจากสะท้อนการทำงานที่บรรลุเป้าหมายแล้ว ยังสามารถช่วยในเรื่องการสร้างบรรยากาศการทำงานให้ราบรื่น เกิดความสัมพันธ์ที่ดีของพนักงานในทีม รวมทั้งในภาพใหญ่ขององค์กร ซึ่งความสัมพันธ์อันดีที่มีอย่างสม่ำเสมอจะสร้างความรู้สึกผูกพันธ์ต่อองค์กรได้อีกด้วย
- 82% ของพนักงานให้ความสำคัญกับข้อมูลของเพื่อนร่วมงานเป็นอย่างมาก
- 41% ของพนักงานบอกว่าสิ่งหนึ่งที่พวกเขาชอบมากที่สุดเกี่ยวกับงานของพวกเขาคือเพื่อนร่วมงาน
ที่มา https://acadal.com/business-culture-statistics-2020/
การเติบโตในยุคปัจจุบันอาจเรียกได้ว่าหมดยุคฟ้าประทาน แต่เป็นยุคที่ต้องหันกลับมามองที่ศักยภาพของตนเองเพราะสิ่งสำคัญคือการพัฒนาตนเองให้มีศักยภาพในด้านต่างๆ ที่ตอบโจทย์กับองค์กร สามารถบริหารจัดการงานของตนเอง รวมถึงสร้างความร่วมมือในทีม ทำให้องค์กรเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี รวมทั้งสามารถสร้างผลงานได้อย่างสม่ำเสมอ การทำงานได้ดี มีคุณสมบัติที่เหมาะสมและพัฒนาตนเองเพื่อรองรับการพัฒนาตนเองในตำแหน่งที่สูงขึ้นได้เชื่อว่าหากเราพัฒนาตนเองอย่างเต็มที่ก็จะสามารถพาตัวเองไปอยู่ในจุดสำเร็จได้ไม่ยาก