ในปัจจุบันจะขายของ ขายบ้าน ขายครีม ขายคอนโดจำเป็นต้องอาศัยนักขายมืออาชีพเพื่อสร้างยอดขายใหม่ ๆ เพิ่มพูนกำไรให้งอกงาม โดยอาชีพนักขายในปัจจุบันนั้นเป็นอาชีพที่มีค่าตอบแทนที่สูงมาก และยังสามารถนำมาต่อยอดสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจได้อีกด้วยแต่จะทำอย่างไรกับการปลุกปั้น ดันยอดขายสุดฝีมือ ใช่ว่าเซลล์หรือทีมขายจะมีจุดเด่นแค่เพียงพูดเก่งเท่านั้น แต่เซลล์ที่ดีต้องสามารถดันยอดขายให้ทะลุเกินเป้า จำเป็นต้องมีกลยุทธ์ ทักษะ และประสบการณ์ให้ครบ โดยเรามีเทคนิคปิดยอดขายสุดปังมาฝากทุกคน มาดูกันค่ะว่า 5 สเต็ปดันยอดขายสุดปังก่อนปิดไตรมาสแรกที่ช่วยนักขายทุกคนได้เตรียมตัวสร้างข้อได้เปรียบ ช่วยให้ปิดการขายได้ ด้วย 5 ขั้นตอนนี้
สเต็ป 1 ทำความรู้จักลูกค้า
เตรียมตัวดีถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง เข้าสุภาษิตที่ว่ารู้เขา รู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้งฉะนั้นการเตรียมตัวเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมาก โดยอย่างแรกที่ต้องคำนึงเลยคือภาพลักษณ์ที่ดีทั้งการแต่งกายทรงผมที่ดูมีความเป็นมืออาชีพมากที่สุด นอกจากนี้ก่อนถึงวันนัดนักขายมืออาชีพอย่างเรา ๆ ต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อมทั้งเอกสารสัญญา รายละเอียดต่าง ๆ รวมถึงศึกษาข้อมูลเบื้องต้นของลูกค้ามาให้ดีในระดับหนึ่ง เพื่อให้ทราบความต้องการในเบื้องต้น
พอมาถึงในวันนัดหมาย นักขายเริ่มต้นจากการแนะนำตัวเองด้วยความมั่นใจไม่ตะกุกตะกัก โดยถึงแม้จะเป็นการนัดหมายทางโทรศัพท์หรือทางออนไลน์ก็ตาม แต่ก็สามารถสื่อสารอย่างทรงพลังและมีความมั่นใจ ถือเป็นจุดเริ่มจนที่สามารถสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าได้
สเต็ป 2 ค้นหาความต้องการของลูกค้า
นักขายมืออาชีพนอกจากมีทักษะการพูดที่ยอดเยี่ยมแล้ว ทักษะการเป็นนักการตลาดที่ดีจำเป็นต้องตามมาเช่นกัน โดยก่อนเริ่มต้นขายหรือนำเสนอผลิตภัณฑ์ของตนเองแล้ว จำเป็นต้องคำนึงถึงความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก โดยต้องทราบว่าลูกค้ามีปัญหาอะไร ต้องการสินค้าใดที่จะช่วยแก้ปัญหาของลูกค้าได้ โดยมุ่งเน้นประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ โดยนักขายมืออาชีพซึ่งนอกจากความเชี่ยวชาญในตัวสินค้าและวิธีการขายแล้ว การค้นหาความต้องการของลูกค้าเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงไปได้ เพราะแม้ว่าผลิตภัณฑ์จะดีสักแค่ไหนแต่หากไม่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ย่อมขายไม่ได้อย่างแน่นอน
ดังนั้น การค้นหาความต้องการของลูกค้า จึงนับเป็นหัวใจสำคัญที่จะมัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด เพราะความต้องการของลูกค้าที่ชัดเจน สามารถนำไปสู่การนำเสนอสินค้า และบริการที่ตรงใจได้ง่ายยิ่งขึ้น จึงช่วยให้นักขายสามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
สเต็ป 3 นำเสนอทางเลือก
เมื่อทราบถึงความต้องการของลูกค้าแล้ว นักขายจำเป็นต้องนำเสนอทางเลือกที่ดีที่สุดให้แต่ลูกค้า โดยบอธิบายถึงคุณประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ให้ชัดเจน รวมถึงประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับคืออะไร แต่อย่างไรเพื่อให้เราสามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นจึงเป็นต้องเสนอทางเลือกให้ลูกค้า เพื่อให้ลูกค้ารีบเลือกจากข้อเสนอที่เรามอบให้อาทิเช่น ให้ข้อเสนอพิเศษ โปรโมชัน สินค้าผลิตจำนวนจำกัด รวมถึงมีดีลเลอร์รอต่อคิวเยอะ วิธีการเช่นนี้จะช่วยให้ลูกค้าจำเป็นต้องซื้อสินค้าของเราได้รวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การนำเสนอทางเลือกที่ชัดเจน และตรงใจ ก็เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้ดี และลดข้อโต้แย้งลงได้
สเต็ป 4 ปิดการขาย
การปิดการขาย กระบวนการสำคัญในการสร้างยอดขาย โดยรูปแบบการปิดการขายที่ตอบโจทย์ลูกค้าแต่ละคน จะทำให้ลูกค้าตอบตกลงที่จะซื้อสินค้าและบริการได้อย่างเต็มใจ และสบายใจ โดยเทคนิคการปิดขายที่นิยมใช้เป็นอย่างมาก ได้แก่
- เข้าหาผู้มีอำนาจตัดสินใจ จะเป็นการร่นระยะเวลาในการปิดการขายได้เร็วขึ้น และช่วยให้นักขายไม่จำเป็นต้องพูดซ้ำบ่อย ๆ หากสินค้าของเราดีจริง ลูกค้าได้รับประโยชน์สูงสุดรวมถึงตรงกับความต้องการ หากเข้าหาผู้มีอำนาจในการตัดสินใจเลยจะช่วยปิดการขายได้อย่างรวดเร็วขึ้น
- มีการรับประกัน ในการขายแต่ละครั้ง ลูกค้าจะมีความกังวลในเรื่องความเสียหายของสินค้า ความคุ้มค่า ดังนั้น นักขายสามารถรับประกันสินค้าเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและช่วยให้ปิดการขายได้ง่าย
- จำกัดด้วยระยะเวลา เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่นิยมใช้ โดยให้ระยะเวลาโปรโมชัน หรือข้อเสนอสุดพิเศษ โดยหากลูกค้าไม่ซ้ำตามระยะเวลาที่กำหนดจะทำให้สินค้าดังกล่าวมีราคาแพงขึ้น
สเต็ป 5 รักษาลูกค้า
จากสเต็ปในข้างต้น อีกหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันเลยคือการรักษาลูกค้า เพราะถึงแม้ว่าจะปิดการขายอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว การรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าหลังการขาย เป็นการสร้างความประทับใจ นำไปสู่การบอกต่อ ซื้อซ้ำ และช่วยในการสร้างยอดขายในระยะยาวให้แก่นักขาย
โดยทั้ง 5 สเต็ปดันยอด ปิดยอดขายสุดปังได้เร็วขึ้น นักขายทุกคนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับบริบทรวมถึง คำนึงถึงความต้องการของลูกค้าเป็นหลักที่สำคัญต้องจริงใจ และมีความน่าเชื่อถือจะทำให้นักขายทุกท่านสามารถอยู่ในอุตสาหกรรมนี้ได้อย่างยาวนาน