5 ปัจจัยที่ทำให้พนักงานเติบโตในสายงาน 

Leader Authority Boss Coach Director Manager Concept

ความคาดหวังในการทำงานของมนุษย์เงินเดือนโดยส่วนใหญ่ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของการได้เงินเดือนที่สูงขึ้นแต่อย่างแรกที่จะเป็นประตูไปสู่การเพิ่มขั้นเงินเดือนก็คือการเลื่อนตำแหน่งงานที่สูงขึ้น หรือการเติบโตในตำแหน่งงาน ขึ้นอยู๋กับหลายปัจจัย ทั้งปัจจัยส่วนบุคคล ปัจจัยด้านองค์กร และปัจจัยภายนอกอื่นๆ 

ซึ่งปัจจัยสำคัญที่สามารถจัดการได้ และมีความสำคัญเป็นอย่างมากก็ปัจจัยส่วนบุคคลที่ต้องมองกลับมาที่ตัวเราเอง ว่ามีศักยภาพในการทำงานมากน้อยแค่ไหน เพราะการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากย่อมทำให้มีโอกาสในการก้าวหน้าได้มากกว่า นอกจากนี้ยังรวมถึงการวางแผนและตั้งเป้าหมายในการทำงานของตนเองว่าต้องการความก้าวหน้าในการทำงานไปสู่จุดไหน เพราะเป้าหมายที่ชัดเจนจะส่งผลให้เกิดการผลักดันตนเองไปสู้เป้าหมายได้อย่างเป็นรูปธรรมมากว่า อย่างไรก็ตามการพัฒนาศักยภาพของตนเองอยู่เสมอ เพื่อรองรับโอกาสดีๆ ในการทำงานที่จะเข้ามา คือสิ่งที่จำเป็นสำหรับพนักงาน เพราะหากมีความต้องการที่จะเติบโตแต่กลัวการพัฒนา ต้องการอยู่ในจุดเดิมเพื่อทำงานอย่างสบายใจ ก็อาจก่อให้เกิดอุปสรรคในการพัฒนาได้

เทคนิค 5 ข้อที่จะปั้นตัวเองไปสู่ตำแหน่งงานที่สูงขึ้น

1. ความสามารถและภาวะผู้นำ

สิ่งแรกที่เป็นพื้นฐ่นและขาดไม่ได้เลยก็คือ ความสามารถและภาวะผู้นำของตัวเรา ที่สอดคล้องกับตำแหน่งงานที่เราได้รับมอบหมาย รวมถึงสอดคล้องกับเป้าหมายในระดับองค์กร เพราะนี่คือสิ่งที่บอกว่าเราจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้งานบรรลุเป้าหมาย และสร้างความร่วมมือในการทำงานได้ นอกจากนี้หากเราสามารถฉายแสงความสามารถที่จะต่อยอดไปสู่ตำแหน่งที่เติบโตขึ้นไปได้ก็จะทำให้การเลื่อนตำแหน่งเป็นไปได้ไม่ยาก โดยภาวะผู้นำไม่จำเป็นต้องรอให้ได้รับตำแหน่งหัวหน้างาน แต่สามารถใช้ความเป็นผู้นำในทุกระดับเพื่อขับเคลื่อนงานให้มีประสิทธิภาพได้ในทุกตำแหน่ง สถิติจากงานวิจัยพบว่า 

  • 83% ของนายจ้างระบุว่าการพัฒนาผู้นำในทุกระดับเป็นสิ่งสำคัญ
  • 78% ของผู้นำธุรกิจให้ความสำคัญกับการปรับปรุงการมีส่วนร่วมกับพนักงาน

ที่มา https://goremotely.net/blog/leadership-statistics/

Group of Asia business people stack hands together celebration to achievement in office. coworker unity and teamwork concept.

2. รู้ค่านิยมองค์กร

ในเกือบทุกองค์กรจะมีการกำหนดค่านิยมองค์กร (Core Values) ที่จะบอกว่า DNA แบบไหนที่องค์กรต้องการให้มีอยู่ในตัวพนักงาน เพื่อจะได้สนับสนุนให้องค์กรเติบโตได้แบบยั่งยืน ถ้าเรามีค่านิยมส่วนตัว (Personal Values) ที่สอดคล้องกับองค์กรก็จะสามารถทำงานให้สอดรับกับเป้าหมายองค์กรได้เป็นอย่างดี เพราะไม่ต้องฝืนตัวเองให้เป็นไปตามที่องค์กรต้องการ ทำให้การทำงานในองค์กรมีความสุข มีแรงบันดาลใจในการทำงานมากยิ่งขึ้น

  • บริษัทที่มีวัฒนธรรมที่แข็งแกร่งมีรายได้เพิ่มขึ้น 4 เท่า
  • คะแนนโดยรวมของพนักงานเกี่ยวกับคุณภาพของบริษัท เช่น การทำงานร่วมกัน สภาพแวดล้อมในการทำงาน พันธกิจ และการจัดตำแหน่งงานที่มีคุณค่า สูงขึ้น 20% ในบริษัทที่มีวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง คุณสมบัติเหล่านี้ช่วยให้พนักงานมีการทำงานที่ความสอดคล้องกับบริษัท และมีแรงจูงใจในการทำงาน

ที่มา https://cultureiq.com/blog/company-culture-employee-engagement-statistics/

3. ผลงานดีอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ 

นอกจากประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีแล้ว ความต่อเนื่องและสม่ำเสมอก็เป็นอีกสิ่งที่องค์กรมองหา การสร้างผลงาน Peek Perfomance ได้ หรือมีผลงานที่โดดเด่นต่อเนื่อง ถือเป็นการแสดงศักยภาพของตนเอง ก็เป็นอีกทางที่ทำให้เราอาจถูกโปรโมทแบบ Fast track ได้อีกด้วย

4. เป็นผู้นำที่สร้างการเปลี่ยนแปลงได้ 

องค์กรในยุคนี้ต้องมีความรวดเร็วในการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้ทันต่อเหตุการณ์ หากคุณเป็น Chang Agent ถือเป็นกุญแจสำคัญในการเปลี่ยนแปลงองค์กร คือมีความรู้และเข้าใจกลยุทธ์ขององค์กรและสามารถโน้มน้ามใจให้ผู้อื่นตอบสนองกับกลยุทธ์หรือนโยบาย สามารถมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายสามารถ ไม่ต่อต้านและโน้มน้าวใจให้คนในองค์กรเห็นถึงความสำคัญที่จะปรับพฤติกรรมเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทั้งภาพลักษณ์องค์กร การสานต่อนโยบายผู้บริหารได้

5. มี Team Spririt 

นอกจากทักษะต่างๆ แล้วการที่เรา Team spririt คือสามารถทำงานร่วมกับหน่วยงานตัวเองได้ดี สนับสนุนเป้าหมายของทีมได้จนงานสำเร็จ โดยใช้ความสามารถที่แตกต่างหลากหลายของคนในทีมเพื่อสนับสนุนการทำงานซึ่งกันและกัน และยังทำงานกับคนต่างแผนกได้ (Cross functional) ก็ถือเป็นอีกสิ่งที่องค์กรต้องการ เพราะงานในองค์กรไม่สามารถสำเร็จได้ด้วยทีมเดียว แต่ต้องร่วมมือกันจากทุกฝ่าย การทำงานเป็นทีมได้ดีนอกจากสะท้อนการทำงานที่บรรลุเป้าหมายแล้ว ยังสามารถช่วยในเรื่องการสร้างบรรยากาศการทำงานให้ราบรื่น เกิดความสัมพันธ์ที่ดีของพนักงานในทีม รวมทั้งในภาพใหญ่ขององค์กร ซึ่งความสัมพันธ์อันดีที่มีอย่างสม่ำเสมอจะสร้างความรู้สึกผูกพันธ์ต่อองค์กรได้อีกด้วย 

  • 82% ของพนักงานให้ความสำคัญกับข้อมูลของเพื่อนร่วมงานเป็นอย่างมาก
  • 41% ของพนักงานบอกว่าสิ่งหนึ่งที่พวกเขาชอบมากที่สุดเกี่ยวกับงานของพวกเขาคือเพื่อนร่วมงาน

ที่มา https://acadal.com/business-culture-statistics-2020/

การเติบโตในยุคปัจจุบันอาจเรียกได้ว่าหมดยุคฟ้าประทาน แต่เป็นยุคที่ต้องหันกลับมามองที่ศักยภาพของตนเองเพราะสิ่งสำคัญคือการพัฒนาตนเองให้มีศักยภาพในด้านต่างๆ ที่ตอบโจทย์กับองค์กร สามารถบริหารจัดการงานของตนเอง รวมถึงสร้างความร่วมมือในทีม ทำให้องค์กรเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี รวมทั้งสามารถสร้างผลงานได้อย่างสม่ำเสมอ การทำงานได้ดี มีคุณสมบัติที่เหมาะสมและพัฒนาตนเองเพื่อรองรับการพัฒนาตนเองในตำแหน่งที่สูงขึ้นได้เชื่อว่าหากเราพัฒนาตนเองอย่างเต็มที่ก็จะสามารถพาตัวเองไปอยู่ในจุดสำเร็จได้ไม่ยาก